อรรถพล ณ บางช้าง : Academy Fantasia คนเบื้องหลัง ปฏิบัติการล่าฝัน

<< แชร์บทความนี้

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2547 UBC เคเบิลทีวีรายใหญ่ของเมืองไทย ได้เปิดตัวรายการใหม่ ซึ่งกลายเป็นกระแส Talk of the town ไปทั่วประเทศ ด้วยการนำนักล่าฝัน 12 ชีวิต มาอาศัยอยู่รวมกัน ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะมีคอนเสิร์ตแข่งขัน พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้ชมทางบ้านได้ลงคะแนนโหวต โดยนักล่าฝันที่ได้คะแนนน้อยสุดต้องเป็นผู้ลากกระเป๋าออกจากบ้านไป

ตลอดระยะเวลา 12 ปี รายการนี้ได้กลายเป็นบันไดสำคัญที่สร้างคนดังสู่วงการบันเทิงไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์, ตุ้ย-เกียรติกมล ล่าทา, บอย-พิษณุ นิ่มสกุล, มิ้น-มิณฑิตา วัฒนกุล, ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ, กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล, นัท-ณัฐ ศักดาทร, นัททิว-ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม, ซาร่า-นลิน โฮเลอร์, ปอ-อรรณพ ทองบริสุทธิ์, ว่านไฉ-อคิร วงษ์เซ็ง, เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ ฯลฯ 

เพื่อย้อนเส้นทางของ เรียลลิตี 24 ชั่วโมง รายการแรกของเมืองไทย ยอดมนุษย์..คนธรรมดา ร่วมกับ The Cloud จึงชักชวน อรรถพล ณ บางช้าง หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านดิจิทัล คอนเทนต์ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ในโปรดิวเซอร์ของรายการ True Academy Fantasia มาร่วมพูดถึงเรื่องราวและเบื้องหลังที่ทำให้รายการนี้ประสบความสำเร็จ และอยู่ในใจของผู้ชมมานานจนถึงวันนี้

อ่าน : เบื้องหลังการสร้างเวทีนักล่าฝันแบบ AF รายการเรียลลิตี 24 ชม. แรกของเมืองไทย ที่ http://readthecloud.co/academy-fantasia

แต่ก่อนที่จะเต็มอิ่มกับเรื่องราวทั้งหมด เรามีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุกๆ ของ Academy Fantasia มาเล่าให้ฟัง

1. เหตุผลสำคัญที่ทำให้ UBC Academy Fantasia ซีซัน 1 เริ่มเปิดบ้านในเดือนมิถุนยายน 2547 เพราะเป็นช่วงหลังจากฟุตบอลต่างประเทศจบฤดูกาลพอดี เช่นเดียวกับซีซัน 5 ซึ่งต้องเริ่มเปิดบ้านตั้งแต่พฤษภาคม เพราะกลัวจะไปชนกับกีฬาโอลิมปิกที่จีน เมื่อปี 2551

2. เพลงธีมของ Academy Fantasia ที่ทุกคนร้องว่า “…จะไปเป็นดาวโดดเด่นบนฟากฟ้า จะไปไขว่คว้าเอามาดังใจฝัน…” เป็นผลงานการแต่งของ ฬินา-ภคสร ลีนุตพงษ์ ภรรยาของ บี-พีระพัฒน์ เถรว่อง

3. เคยมีการสำรวจก่อนเริ่มรายการซีซันแรกว่า รายการอะไรที่มียอดส่ง SMS สูงสุด และส่งมากแค่ไหน ซึ่งพบว่า ยอดอยู่ที่ 8,000 ข้อความต่อชั่วโมง พอเริ่มรายการทาง UBC เลยเตรียมระบบรองรับไว้ที่ 20,000 ข้อความต่อชั่วโมง แต่ปรากฏว่าไม่เพียงพอ เพราะยอดผู้ส่ง SMS นั้นทะลุถึง 35,000 ข้อความต่อชั่วโมง จนสุดท้ายระบบล่ม 

4. นอกจากนักล่าฝันแล้ว หนึ่งในสัญลักษณ์ที่อยู่คู่รายการคือ อาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา ซึ่งรับหน้าที่เป็นพิธีกรบนเวทีตลอดมา อาต้อยบอกว่าตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เพราะคิดว่าเป็นรายการวัยรุ่น แต่พอลองมาทำดูก็คิดว่า ไปด้วยกันได้ เพราะหน้าที่หลักคือการให้กำลังใจไม่ให้นักล่าฝันกดดันเกินไป หลังจากฤดูกาลแรก อาต้อยเคยบอกว่า ขอไม่ทำได้ไหม เพราะคิดว่าคนดูคงเบื่อพิธีกรคนนี้ แต่ทีมงานก็ยืนยันว่า ทำต่อเถอะ เพราะอาต้อยได้กลายเป็นโลโก้ของรายการไปแล้ว และเขาอยู่คู่รายการนี้จนถึงฤดูกาลสุดท้าย เมื่อปี 2558

5. นอกจากบรรยากาศภายในบ้านแล้ว จุดเด่นของ Academy Fantasia อีกอย่างคือการแสดงบนเวที ซึ่งแต่ละโชว์ก็มีเรื่องเล่าที่น่าจดจำ เช่น The Phantom of the Opera ซึ่งหลายคนบอกว่าโชว์นี้แรง เป็นของสูง เป็นงานชั้นครู เพื่อความสบายใจ ทีมงานคอนเสิร์ตเลยไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนเพื่อขออนุญาต แต่ปรากฏว่าก่อนเริ่มโชว์ เกิดเหตุไฟดับขึ้นมากะทันหัน พอตรวจสอบก็พบว่าสายไฟเส้นหนาเป็นนิ้วเกิดขาดโดยไม่ทราบสาเหตุ

6. สิ่งที่อยู่คู่กับโชว์เสมอคือ สัตว์ อย่างเช่น ซาร่า-นลิน โฮเลอร์ แห่ง AF3 ต้องกำกับสุนัขหลากไซส์ 3-4 ตัวให้กระโดดลอดห่วง ไต่ถัง เดินสองขา แต่ปรากฏว่าตอนซ้อมสุนัขตัวหนึ่งเดินตกเวที จนสร้างความตื่นอกตกใจให้ทีมงาน แต่สุดท้ายสุนัขตัวนั้นก็มีสปริตเต็มที่ เพราะตอนโชว์ ไม่แสดงอาการบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น

7. อีกหนึ่งโชว์ที่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ลงทุนสูงมาก คือ เพลงแค่หนึ่งวินาที ก็สายไป โดย โบว์-สาวิตรี สุทธิชานนท์ แห่ง AF5 เพราะออกแบบเป็นมุ้งใส เล่นแสงให้ฉากหลังดูเสมือนเป็นภาพมายา ตอนแรกมีผู้ชายอยู่ข้างใน แต่เผลอแป๊บเดียว พอยกมุ้งขึ้นปรากฏว่า ผู้ชายหายไปแล้ว ว่ากันว่าโบว์ต้องทุ่มเทซ้อมคิวนี้เป็นพิเศษหลายรอบมาก และวันจริงก็ทำได้ดีมาก แต่ปรากฏว่า สุดท้ายผู้ที่ต้องลากกระเป๋าออกจากบ้านไปก็คือ โบว์นั่นเอง

8. Academy Fantasia มีลูกเล่นที่โดดเด่นหลายอย่าง เช่น กระเป๋านักล่าฝัน ซึ่งจะถูกนำมาตั้งไว้ตอนประกาศผล โดยทุกใบนั้นจะใส่ข้าวของสัมภาระของนักล่าฝันจริงๆ เลยเป็นหน้าที่ของเหล่าสเตจที่ต้องคอยแบกกระเป๋าขึ้นลงเวทีเป็นประจำทุกสัปดาห์ อีกอย่างหนึ่งคือ ตุ๊กตาภูมิคุ้มกัน ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกตอนซีซัน 5 มอบให้กับผู้ได้รับคะแนนสูงเป็นอันดับ 2 ในสัปดาห์ที่ 6 ไว้ใช้ในสัปดาห์ถัดไป ไม่ให้ตัวเองออกจากบ้าน ต่อมามีการเปลี่ยนกติกา โดยให้พิธีกรเรียกชื่อผู้ที่ได้คะแนนน้อยสุด 3 คนออกมา แล้วให้คอมเมนเทเตอร์ช่วยลงคะแนนว่าใน 3 คนนี้ใครโชว์ดีที่สุด แล้วก็จะให้ตุ๊กตาเก็บไว้

9. Academy Fantasia ดั้งเดิมเป็นรายการของเม็กซิโก มีประเทศที่ซื้อแพลตฟอร์มนี้ไปออกอากาศมากมาย คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ปารากวัย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา โดยประเทศที่สามารถจัดโชว์นี้ได้ยาวนานที่สุดก็คือ มาเลเซีย คือตั้งแต่ปี 2546 จนถึง 2559

<< แชร์บทความนี้

RELATED POSTS
LATEST

Keep In Touch

COPYRIGHT © 2021 WWW.THENORMALHERO.CO.  ALL RIGHTS RESERVED.