6. พูดถึงทีนทอล์กคนก็มักจะถึง ภาพยนตร์เรื่อง O-Negative รัก-ออกแบบไม่ได้ เพราะภิญโญเป็นผู้กำกับ แถมยังมีพิธีกรทีนทอล์ก อย่าง เร, ชาคริต และอ้น นำแสดงอีกต่างหาก จนมีข้อครหาว่าเล่นเส้นหรือเปล่า แต่ภิญโญบอกว่า นี่คือเรื่องบังเอิญ เพราะกว่าจะมาถึงมือเขาก็ส่งต่อมาหลายทอดแล้ว เช่นเดียวกับนักแสดง ซึ่งแคสติงแกรมมี่ฟิล์มเป็นคนเลือกหมด กระทั่งภิญโญมาเห็นถึงกลับตกใจว่า “นี่มันเด็กกูหมดเลยนี่หว่า”

7. เรื่องหนึ่งที่ขัดใจภิญโญมากคือตามหลักที่วางไว้ ‘ทีน’ ต้องอายุขึ้นต้นด้วยเลข 1 เท่านั้น แต่ให้เปลี่ยนพิธีกรหลักก็ทำไม่ได้ เพราะสำหรับทุกคนแล้ว ‘ทีนทอล์กคือเร เรคือทีนทอล์ก’ จึงต้องปล่อยเลยตามเลย หันมาเปลี่ยนพิธีกรเสริมแทนก็แล้วกัน

8. ทีนทอล์กเคยมีความคิดจะทำรายการวิทยุเหมือนกัน แต่วิทยุของที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น เพราะภิญโญอยากทำคลื่น AM เขาบอกว่าคงเท่ดี ถ้าเห็นเด็กยุคนั้นเดินถือวิทยุทรานซิสเตอร์

9. ครั้งหนึ่ง ภิญโญเคยนึกสนุก อยากทำบอยแบนด์ออกมาเล่นๆ จึงจับเด็กหนุ่ม 3 คนที่เคยออกรายการยาคูซ่า คือ ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์, แบงค์-พิสิษฐ์ ขำยอด และ เป๊ก-ผลิตโชค อายนะบุตร มารวมตัวเป็นวงชื่อ G-Boyz โดย G นี่ไม่ได้ย่อมาจาก Grammy อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ย่อมาจาก Golden โดยทั้งสามคนมาร้องเพลงไม่รู้จะเลือกใคร และยิ้ม ยิ้ม แต่ไม่ได้มีแผนจะปล่อยอัลบั้มใดๆ ทั้งสิ้น ทำเล่นๆ สนุกๆ แต่ปรากฏว่าโดน!! แต่น่าเสียดายที่วงนี้ต้องหยุดไป เพราะแบงค์เสียชีวิตไปก่อน โดยตอนหลังฟิล์มจึงย้ายไปอยู่อาร์เอส ส่วนเป๊กยังปักหลักอยู่กับแกรมมี่ต่อไป

10. ตลอด 9 ปีของบริษัททีนทอล์ก ผลิตรายการออกมาทั้งหมด 13 รายการ คือ ทีนทอล์ก, อี ฟอ ทีน, ที-เฮลท์, ทีนทอล์ก อินดี้, ทีนทอล์ก อินเตอร์, มันไม่เม้ม, ไว้ลาย, E.O. TV, ดูมาโชว์, เวคคลับ, ยาคูซ่า, สมอลทอล์ก และ แบบว่าโลกเบี้ยว ซึ่งโอนย้ายจากแกรมมี่มาอยู่ด้วยกัน