365 Films : ‘แฟนฉัน’ ปรากฏการณ์ความทรงจำไม่มีสิ่นสุด

<< แชร์บทความนี้

หากพูดถึงกลุ่ม 365 ฟิล์ม คุณอาจนึกไม่ออกว่าพวกเขาเป็นใคร?

แต่ถ้าย้อนกลับไป เมื่อปี 2546 พวกเขาเคยสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่สนั่นวงการภาพยนตร์ไทยมาแล้ว

ด้วยการร่วมกันกำกับภาพยนตร์เด็ก ซึ่งทำสถิติรายได้ทะลุร้อยล้านบาท แซงหน้าแอมิเมชันฟอร์มยักษ์ระดับโลก อย่าง Finding Nemo ที่เข้าฉายวันเดียวกันไปแบบถล่มทลาย

ยอดมนุษย์..คนธรรมดา ร่วมกับ The Cloud ขอพาทุกคนไปพูดคุยกับ 6 หนุ่ม ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร, ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม, ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์, เดียว-วิชชพัชร์ โกจิ๋ว, เอส-คมกฤษ ตรีวิมล และ บอล-วิทยา ทองอยู่ยง ผู้กำกับภาพยนตร์ในตำนาน ‘แฟนฉัน’ ซึ่งมาจะร่วมเปิดลิ้นชักความทรงจำถึง ‘หนังเรื่องแรก’ ของพวกเขาอีกครั้ง

แต่ก่อนไปพบกับเนื้อหาฉบับเต็ม เรามีเรื่องเล่าสนุกๆ ที่หลายคนอาจไม่ทราบ หรือเคยทราบแต่ลืมไปแล้วมาเล่าให้ฟังก่อน

1. จุดเด่นอย่างหนึ่งแฟนฉัน คือมุกตลกอันแสนแพรวพราว โดยมุกไหนที่ เก้ง-จิระ มะลิกุล โปรดิวเซอร์ของหนังอ่านแล้วชอบหรือตลก ก็จะให้ 5 ดาวไว้ ซึ่งมุกคลาสสิกที่มาแรงตั้งแต่แรกก็คือ ‘อีนมใหญ่ เมียมึง’ (ปล.ย้งจำได้ว่า ตอนนั้นพี่เก้งให้ดาวเกลื่อนไปหมด)

2. ก่อนมาเป็นหนังใหญ่ แฟนฉันเคยเป็นหนังสั้นที่ถ่ายไม่เสร็จของปิ๊ง และมี แจ๊ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ เป็นนักแสดงที่ได้รับบทต่อเนื่อง แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากแจ๊คแล้ว เด็กผู้ชายคนอื่นก็ยังได้รับเกียรติให้ปรากฏอยู่ในหนังเช่นกัน เพราะปิ๊งส่งรถไปรับถึงสระบุรี เพื่อมาแสดงเป็นทีมฟุตบอลคู่แข่งในแก๊งพระเอกในเรื่อง

3. ความจริงเดียวเกือบไม่ได้ร่วมกำกับกับเพื่อนๆ แล้ว เพราะก่อนหน้านั้น เขาไปเป็นโรบินฮู้ดอยู่สหรัฐอเมริกา 3 ปี พอถึงช่วงที่จะกลับก็เลยถือโอกาสเที่ยวส่งท้าย จึงโทรศัพท์ตามย้งที่เพิ่งลาออกจากงานมาเที่ยวเป็นเพื่อน แต่ปรากฏว่าเที่ยวไปแค่ 3-4 วัน ก็โดนตำรวจตรวจคนเข้ามาเมืองรวบตัวเสียก่อน
เดียว : คือปีก่อนหน้า มันมีเหตุการณ์ 9-11 ตำรวจที่นั่นก็เลยเคร่งมาก แล้วเราก็ไม่รู้เรื่องว่าเอลพาโซ ติดชายแดนแค่ไหน ไม่ได้สนใจ พอไปดูปรากฏว่าติดเม็กซิโกเลยนี่หว่า ก็เลยซวย โดนติดคุกอยู่นาน 3 เดือน
เอส : วีซ่าขาดนานแล้ว ตั้งใจจะเป็นผีน้อย
เดียว : ใช่ แต่ไอ้ย้งไม่โดน ไปเที่ยวต่อ 1 เดือน
เอส : แต่ทุกคนเข้าใจคือ ย้งไปรับเดียว พอเดียวติดคุกก็กลับมาเลยนะ
เดียว : เปล่า (เสียงสูง) ย้งเที่ยวต่อ ผมก็อยู่ในคุกไป อยู่ในแดนชื่อเดลต้าเอ็กซ์ ชุดน้ำเงิน โทษเบา พออยู่ครบก็ถูกส่งตัวกลับเมืองไทย แล้วเขาก็เรียกมาคุุยที่หับโห้หิ้น
ต้น : ตอนที่เจอตกใจมาก อยู่อเมริกาไม่ใช่เหรอ
เดียว : ตอนนั้นยังไม่มีเฟชบุ๊คอะไรเลยนะ มีแต่เว็บบอร์ดรุ่น แล้วเพื่อนๆ ก็จะลงข้อความ Free Him Vijja Kojew เต็มไปหมด เรียกร้องให้ปลดปล่อย
บอล : ให้เบอร์สถานทูตด้วย ทุกคนจริงจังหมด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ (หัวเราะ)

4. ช็อตเด็ดที่พวกเขาคุยกันนานเกือบครึ่งชั่วโมง คือฉากเจี๊ยบวิ่งตามรถ ตอนน้อยหน่าย้ายบ้าน เพื่อเอาหนังยางไปคืน เพราะถือเป็นฉากที่ยากสุดในเรื่อง เหตุผลก็เพราะแน็ก-ชาลี ไตรรัตน์ ร้องไห้ไม่ได้สักที
อส : วันนั้น ฝนจะตกแล้วก็จะถ่ายไม่ทัน แต่ไอ้แน็คก็ร้องไห้ไม่ได้สักที ย้งก็เลยบอกว่าช่างมันถ่ายวันอื่นละ แล้วระหว่างที่เราถอดใจไปแล้ว มันก็ร้องไห้ขึ้น ผมก็รีบยกตัวมันไปวางหน้าเซ็ต ย้งก็หันกล้องกลับมา ถ่ายตอนที่หยิบหนังยาง เสร็จปุ๊บ ฝนตก ผมนี่น้ำตาไหลเลย คิดในใจว่า หรือหนังเรื่องนี้จะได้เงินวะ เพราะมันมหัศจรรย์มากเลย แบบว่าเราจะทำไม่ทันอยู่แล้ว แต่อยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมาเฉย
เดียว : แต่วันนั้นสับหัวหอมเยอะมากเลย คือเอสค่อนข้างไซโคเยอะ ไอ้เราเป็นแคสติ้งก็ต้องหาวิธีซัพพอร์ตเท่าที่ทำได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ร้อง เหมือนที่ร้องเพราะมันไปวิ่งเท้าเปล่า คือกดดันตัวเองว่า พี่ๆ คาดหวังแล้วทำไม่ได้ แต่เราก็ไม่ได้ตั้งใจกดดันเด็กนะ ผมว่าเด็กรู้ว่าผู้ใหญ่ไม่เอาแล้ว จะเปลี่ยนไปแก้ปัญหาแบบอื่นแทน มันมีเซนส์นิดหนึ่ง เห็นมันไปวิ่งเราก็ไม่รู้ว่า มันทำสิ่งนั้นเพื่ออะไร เพราะแน็คชอบแยกตัวไปคนเดียว
เอส : กูให้มันวิ่งเอง (หัวเราะ)
เดียว : ก็ไม่รู้ว่าร้องเพราะกดดันหรือเจ็บเท้ากันแน่ แต่ตอนนั้น มันบอกเหนื่อย จุก เราก็ฟังเหตุผลแล้วก็แบบ เหรอวะ การเหนื่อยจุกทำให้ร้องไห้เหรอ หรือจริงๆ มึงบิวต์ตัวเองได้ เราก็ไม่รู้เหตุผลมันคืออะไรกันแน่ แต่ถึงที่สุดแล้วก็ได้อารมณ์ประมาณนั้นแหละ

5. ส่วนช็อตที่หวาดเสียวสุดของหนัง คือ ฉากขี่ซาเล้งลงเนินเขา ซึ่งฉากนี้ผู้กำกับมอบหมายให้แจ๊ค คนเดียวที่ขี่มอเตอร์ไซค์เพียงคนเดียวเป็นคนขับ โดยก่อนถ่ายพวกเขาก็คิดกันว่า จะให้แจ๊คขับเกียร์เบอร์ 1 ดีไหม เพราะบังคับง่าย เตะเบรคก็ได้ แล้วก็มีเสียงเครื่องด้วย แต่ข้อเสียคือ พอรถไหลลงมา หากตกใจเผลอไปเตะเบรค รถก็จะเสียหลักหัวทิ่ม เลยก็ต้องมาคิดว่าจะเอายังไงกันดี ก่อนสรุปว่าเอาแบบดับเครื่องแล้วกัน
บอล : ตอนถ่ายเราต้องเกณฑ์ทีมงานมาดักไว้ 2 ข้างทาง แต่ที่กดดันมากคือ บรรดาพ่อแม่ที่มายืนอยู่ข้างหลัง ซึ่งตามปกติแล้วเราตกลงกันวา เวลาถ่ายทำ ผู้ปกครองจะไปอยู่ที่เต็นท์กินข้าวหรือที่พักนักแสดง เพราะเวลาพ่อแม่ยืนดู เด็กจะเขินเล่นไม่ออก แต่พอเป็นฉากนี้ห้ามไม่ได้จริงๆ เพราะเค้าก็เป็นห่วงลูก ผมก็เกร็ง เวลาจะสั่งเทคก็ต้องไม่หันไปมองข้างหลัง พ่อแม่ก็เครียดๆ เพราะชีวิตลูกเขาฝากไว้กับไอ้แจ๊ค ซึ่งเป็นคนเดียวที่พ่อแม่ไม่ได้มา กว่าจะถ่ายฉากนี้ก็ถ่ายไป 3 เทคถ่ายเสร็จก็มีเสียงปรบมือเกรียวกราวจากพ่อแม่ พวกเด็กๆ ก็สนุก ร้องเอาอีกๆ

6. ไม่มีแผนสอง คือ สิ่งที่พวกเขาพูดขึ้น หากวันนั้นแฟนฉันเกิดไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมา
เอส : ถ้ามีโลกคู่ขนาน วันนี้บอล อาจเป็น อบต.อยู่ที่หินกอง สระบุรี
บอล : ปิ๊งก็คงอยู่สุราษฎร์ คือกลับไปทำแบบเดิม
เดียว : จนเหมือนเดิม คือเราไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว
บอล : ถ้าล้มเหลว อย่างน้อยๆ เราก็มีหนังร่วมกับเพื่อน
เดียว : แต่เราอาจเป็นหนี้นิดหน่อย (หัวเราะ)
บอล : คือสุดท้ายเท่าเดิม แต่ได้หนังเพิ่มมาหนึ่งเรื่อง

อ่าน แฟนฉัน รื้อความทรงจำของ 6 ผู้กำกับ เรื่องหนังที่กำกับแบบไม่มีที่ใดในโลกเคยทำมาก่อน ที่ https://readthecloud.co/my-girl-movie/

<< แชร์บทความนี้

RELATED POSTS
LATEST

Keep In Touch

COPYRIGHT © 2021 WWW.THENORMALHERO.CO.  ALL RIGHTS RESERVED.