No More Belts : บันทึกแห่งมิตรภาพของค่ายเพลงไร้เข็มขัด

<< แชร์บทความนี้

ฟัง ระยะทาง ฝัน ขอดาว เช้า สายตา บางอย่างระหว่าง กลางวันตื่นกลางคืนฝัน วันไร้สติ ฯลฯ 

ผู้คนมากมายเติบโตมาพร้อมกับบทเพลงเหล่านี้ และมีศิลปินอย่าง Sleeper1, Portrait, Morningsurfers และ Soundlanding เป็นแรงบันดาลใจ

กว่า 20 ปีแล้วที่ค่าย No More Belts เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของนักฟังเพลงชาวไทย แม้งานของพวกเขาอาจไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่ากับค่ายใหญ่ๆ  แต่ก็ยืนยันได้ถึงคุณภาพที่เปี่ยมล้น

และเพื่อรำลึกถึงหนึ่งในจิ๊กซอว์ของวงการเพลงยุค 2000 ยอดมนุษย์..คนธรรมดา ถือโอกาสนี้ชักชวน 2 แกนหลักของค่ายไร้เข็มขัด อย่าง หนึ่งเกรียงไกร วงษ์วานิช หรือ Sleeper1 กับ ปอยตวัน ชวลิตธำรง หรือ Portrait มาร่วมย้อนเรื่องราวแห่งมิตรภาพอีกครั้งหนึ่ง

อ่าน : ย้อนเส้นทาง 22 ปี No More Belts จิ๊กซอว์เพลงอินดี้ไทยยุค 2000 สู่คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้าย ที่ https://readthecloud.co/no-more-belts/

แต่ก่อนที่จะไปเต็มอิ่มกับเรื่องราวของพวกเขา เรามีเรื่องเล่าสนุกๆ ที่คุณไม่เคยรู้มาแบ่งปัน

จากเพื่อนมัธยมสู่ค่ายเพลงอินดี้

หนึ่งและปอยรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยมี เมธี น้อยจินดา มือกีตาร์วง Moderndog และ ฆ้อง มงคล มือกีตาร์ประจำ Yokee Playboy เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ด้วยความที่ชอบเล่นดนตรีเหมือนกันจึงคุยกันถูกคอจนสนิทสนมกลายเป็นเพื่อน บางวันก็เอากีตาร์มาเล่นหน้าห้องด้วยกัน บางวันหนึ่งก็ทำดนตรีใส่เทปมาให้เพื่อนๆ ฟัง สำหรับปอยแล้ว หนึ่งเป็น Music genius ที่สามารถแกะเพลงของวงระดับโลกอย่าง Guns N’ Roses ได้อย่างเหมือนเป๊ะจนมีคนเชื่อว่าตัวจริงมาเล่นเอง หลังจากจบมัธยมพวกเขาสองคนก็แยกย้ายกันไป ก่อนที่จะกลับมาเจออีกครั้ง ในช่วงที่หนึ่งเล่นดนตรีกลางคืน ซึ่งเขาชวนปอยที่แวะไปชมให้ขึ้นเวทีไปร้องเพลงแจม ก่อนที่หนึ่งจะทาบทามให้มาร้องประจำกับวง และพอหนึ่งจะทำซิงเกิลเพลงฟัง เขาก็นึกถึงเสียงของปอย จนกลายมาเป็นการร่วมกันสร้างค่าย No More Belts ในเวลาต่อมา 

เพลงฟัง ความดังที่พาไปออกรายการ Twilight Show

ในช่วงที่วง Friday เตรียมจะไปเล่นงานในงาน FaT Festival ครั้งที่ 2 อิมพีเรียลลาดพร้าว หนึ่งรู้สึกว่าเป็นโอกาสดีที่เขาจะมีงานพิเศษที่แตกต่างจากของวง จึงหยิบเอาเพลง ‘ฟัง’ ที่เคยทำค้างไว้ มาทำเป็นเพลงเปิดตัว พร้อมกับชักชวนปอยมาเป็นคนให้เสียงร้อง โดยผลิตกันอย่างง่ายๆ ด้วยการไรต์แผ่นเปล่าจำนวน 50 แผ่น และทำปกกันเอง ปรากฎว่าวันแรกขายหมดเกลี้ยง จึงต้องแบ่งกับปอยไปไรต์กันอีก 100 แผ่น เพื่อให้ขายทันในวันต่อมาจนแทบไม่ได้นอน   

ความจริงเขาไม่ได้คาดหวังอะไรนอกจากความสนุก แต่เพลงฟังก็ใช้เวลา 14 สัปดาห์ไต่ไปจนถึงอันดับ 1 ของ FaT Radio และทำให้พวกเขาได้ไปออกรายการ Twilight Show วาไรตี้โชว์ที่สุดโด่งดังของหน้าจอไทยในเวลานั้น ปอยเล่าถึงประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมว่ามันเหนือจินตนาการมาก” 

นักหลับที่ชื่อ หนึ่ง

ชื่อ Sleeper1 หรือแปลเป็นไทยว่า ‘หนึ่ง นักหลับ’ นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากการที่เขาชอบนอนหลับในห้องอัดอยู่เป็นประจำ เนื่องจากสมัยที่ทำอัลบั้มชุดแรกของ Friday ภายใต้สังกัด Music Bugs ในห้องอัดจะเปิดแอร์เย็นมาก หนึ่งรู้สึกหนาวจนทนไม่ไหว จึงเตรียมเสื้อหนาวหรือผ้าห่มไป บางคืนง่วงก็ห่มผ้าขดตัวนอนในห้องอัดเสียเลย ทุกคนจึงมักแซวว่าเขาเป็นคนขี้เซา และยิ่งพออยู่บ้านไม่ได้ทำเพลง เขาก็ยิ่งนอนเยอะ เหมือนอยู่ในฝันตลอดเวลา เมื่อจะทำงานเดี่ยวของตัวเองหนึ่งจึงหยิบสิ่งนี้มาตั้งเป็นชื่อศิลปิน

ที่มาของชื่อ และโลโก้ No More Belts

ชื่อค่ายสุดเท่อย่าง No More Belts ซึ่งแปลตรงตัวว่า ‘ไร้เข็มขัด’ นั้น เกิดจากไอเดียของหนึ่งที่อยากสื่อถึงความอิสระ ไม่มีกรอบ ไม่มีข้อบังคับใดๆ เหมือนผลงานดนตรีของพวกเขาที่ปราศจากกฎเกณฑ์ แต่คำว่า No More Belts ก็ยังตีความเพิ่มไปได้อีก เช่น ‘คาดไม่ถึง’ หรือ ‘ไม่คาดคิด’ โดยคนที่มาช่วยออกแบบโลโก้ค่ายให้คือ พี-พีระยุทธ ปลอดปิยะคุณ เพื่อนของหนึ่งที่เป็นคนเขียนเพลงฟัง พีเสนอว่า น่าจะทำเป็นรูปเข็มขัดไอ้มดแดง เพราะเป็นตัวแทนเข็มขัดของวัยเด็ก ในที่สุดจึงออกมาเป็นสัญลักษณ์ค่ายอย่างที่ทุกคนเห็น   

ปอยเคยเรียนเขียนเพลงกับ Grammy

ครั้งหนึ่ง ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค กำลังจะปั้นนักแต่งเพลงรุ่นใหม่ของแกรมมี่ ก็มีน้องในแก๊ง Pantip มาชวนปอยให้ไปเรียนแต่งเพลงกับ แว่น-จักราวุธ แสวงผล จากตอนแรกที่แค่ไปนั่งดู ปอยก็จับพลัดจับผลูได้เข้าไปเรียนแต่งเพลงด้วยอยู่ปีหนึ่ง ครั้งนั้นปอยได้ทดลองเขียนเพลงเดโม่ของศิลปินจริงๆ ทั้งเบิร์ด มาลีวัลย์ Mr.Team แม้ผลงานจะไม่ผ่านให้นำไปใช้จริง แต่ความรู้ตรงนั้นเขาก็นำมาใช้ต่อยอด ตอนที่ทำอัลบั้ม Pop Trade หนึ่งในนั้นคือการเขียนเพลง ขอดาว ที่โด่งดังจนกลายเป็นตำนาน

No More Belts ก็เคยได้รับรางวัลใหญ่เหมือนกัน

เมื่อปี 2547 เพลง To the Sky Part I จาก EP. Post – Past ของ Sleeper1 เคยคว้ารางวัลสีสันอวอร์ด สาขา เพลงบรรเลงยอดเยี่ยม มาได้ โดยเพลงนี้ถือเป็นเพลงเปิดตัวคอนเซปต์อัลบั้มชุดที่ 2 ของหนึ่งอย่าง Difference และที่ไม่น่าเชื่อคือปีถัดมา เพลง Difference Part 1 ก็ยังเข้าชิงสาขานี้อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่พลาดรางวัลไป

3 เพลง ที่มีความหมาย

ในบรรดาเพลงกว่า 600 เพลง จากกว่า 50 อัลบั้ม ถ้าให้หนึ่งและปอยเลือกคนละ 3 เพลงที่มีความหมายที่สุดสำหรับค่าย No More Belts และตัวเอง หนึ่งขอเลือก 

1. ฟัง – Sleeper1 เพราะเป็นเพลงที่เปลี่ยนชีวิตของเขา และเป็นจุดเริ่มต้นการวางรากฐานในการทำค่าย รวมถึงงานอีกหลายๆ อย่างมาจนถึงทุกวันนี้ 

2. ฝันร้าย – Sleeper1 เพราะเป็นเพลงที่ก้าวไปในพื้นที่ที่เขาไม่คาดคิดว่าจะไปถึง เช่น การไปติดชาร์ตคลื่นวิทยุ Hotwave หรือมีคนนอกวงการอินดี้ชื่นชอบเยอะมาก และหนึ่งก็ยังชอบพลังในเพลงนี้อีกด้วย 

3. ขอดาว – Portrait  เพราะเหมือนกับเป็นพลังก็อกที่ 2 หลังจากที่ปล่อย 3 ซิงเกิลแรกของ Portrait ไปแล้วเงียบสนิท จนคิดว่างานเดี่ยวของปอยจะไปต่อไม่ได้แล้ว แต่พอปล่อย ขอดาว ออกไป เสียงตอบรับทุกอย่างก็หลั่งไหลเข้ามาอย่างมหัศจรรย์ หนึ่งเชื่อว่า ถ้าสร้างผลงานเพลงแบบนี้ได้อีก ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไปต่อไม่ได้

ส่วนเพลง 3 ที่มีความหมายสำหรับปอย เขาขอเลือก 

1. เช้า – Morningsurfers ปอยรู้สึกว่าเพลงนี้มหัศจรรย์มากๆ เพราะแต่งโดยสมาชิกวงสมัยที่เป็นเด็กนักเรียน ม. 6 แต่สามารถทำสัดส่วนของดนตรียากและซับซ้อนให้ออกมาฟังง่าย ซึ่งปกติแล้วคนที่จะทำแบบนี้ได้ต้องเป็นนักดนตรีมือเก๋า และเพลงนี้ยังทำให้ภาพรวมทางดนตรีของค่าย No More Belts เท่ขึ้นเยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นอีกเพลงที่เขาภาคภูมิใจ

2. กลางวันตื่น กลางคืนฝัน (feat. Trai Bhumiratna) – สาธร เพลงนี้ในเวอร์ชันแรกอยู่ในอัลบั้ม a day red label album ของนิตยสาร a day แต่งเนื้อร้องและทำนองโดยวิภว์ บูรพาเดชะ สมาชิกวงสาธร ร้องโดยทิด ทนงศักดิ์ รามสงฆ์ ก่อนที่ต่อมาจะเรียงเรียงเป็นเวอร์ชันที่ 2 เพื่อรวบรวมในอัลบั้ม Belter 2 Man Standing โดยมีบอย-ตรัย ภูมิรัตน มาถ่ายทอดเสียงร้อง จนกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง สำหรับปอยแล้ว เพลงนี้เหมือนพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ค่ายอินดี้เล็กๆ แห่งนี้ก็ทำเพลงแมสที่มีคุณภาพได้ 

3. ได้ยินการเปลี่ยนแปลง – Soundlanding เพลงแนว British Rock ที่เต็มไปด้วยความเดือดและพลุ่งพล่าน ซึ่งเหมือนเปิดประตูอีกบานให้กับวงการดนตรีอินดี้ไทย ปอยรู้สึกว่าเพลงนี้เปี่ยมไปด้วยพลัง และยังสะท้อนให้เห็นว่าค่ายเพลงแห่งนี้เปิดกว้างอย่างไร้ขีดจำกัด ไร้กรอบอย่างแท้จริง

พระอั๋น และวง Moon

จุดเริ่มต้นของ Moon วงร็อกเข้มๆ ของค่ายไร้เข็มขัด มาจากช่วงที่หนึ่งทำอัลบั้ม Difference แล้วมีเพลงร็อกหนักๆ หลายเพลง ซึ่งถ้าให้ปอยร้องก็คงไม่ต่างจากผลงานที่ผ่านมา จึงอยากหานักร้องอีกคนมาเพิ่มสีสันที่แปลกใหม่และหลากหลาย กล้วย Morningsurfers จึงแนะนำให้หนึ่งรู้จักกับ อั๋น-เอกวีร์ ศรีสรรพกิจ ซึ่งร้องเพลงประจำอยู่ที่ร้านแจ่มบาร์ ย่านเอกมัย 

การพบกับอั๋น เหมือนกับได้เจอจิ๊กซอว์ตัวที่ถูกต้อง หนึ่งจึงชวนมาร้องในอัลบั้มหลายเพลง และพอคุยไปคุยมาก็พบว่าแนวทางดนตรีสไตล์ร็อกอเมริกันที่อั๋นกับเพื่อนคือ อ้น-วรัน ปวิดาภา กับป๊อป-รุ่งโรจน์ พุ่มพฤกษ์ เล่นอยู่นั้นน่าสนใจ ในค่ายยังไม่มี จึงชักชวนให้มาทำอัลบั้มด้วยกัน โดยให้นอมาช่วยโปรดิวส์ กลายเป็นวง Moon ที่ยังมีคนพูดถึงจนทุกวันนี้

ต่อมาประมาณปี 2553 อั๋น ตัดสินใจออกบวช โดยได้รับฉายาว่า พระเอกวีร์ มหาญาโณ ตลอด 15 พรรษาใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ท่านยังคงมุ่งมั่นศึกษาธรรมะพร้อมกับทำงานส่งเสริมให้คนนำหลักธรรมไปใช้ในชีวิตของตนเองมากขึ้น

ติ๊ก เจษฯ จากลูกค้ากลายเป็นเพื่อน

หลายคนอาจเซอร์ไพรส์ที่เห็น ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี พระเอกแถวหน้าของวงการมาแสดงมิวสิควิดีโอให้ค่ายอินดี้อย่าง No More Belts ในเพลง จำ ของ Sleeper1 เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมิตรภาพและความผูกพันระหว่างติ๊กและหนึ่ง โดยเริ่มมาจากที่ติ๊กกำลังมองหาคนทำเพลงประกอบให้กับรายการ เนวิเกเตอร์ จนมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับหนึ่ง ในวันแรกที่พระเอกนักเดินทางแวะมาคุยงานที่ออฟฟิศของ No More Belts เขาขอตัวไปห้องน้ำ สักพักก็เดินกลับมาบอกว่า ส้วมมันเสีย เครื่องมืออยู่ตรงไหนเดี๋ยวเขาจะไปซ่อมให้ แล้วก็ไปช่วยส้วมให้จนเสร็จเรียบร้อยอย่างไม่ถือตัว หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ทำงานอย่างถูกอัธยาศัยจนกลายเป็นเพื่อนกัน ติ๊กจึงอาสามาแสดงเอ็มวีให้ฟรี ร้องเพลงเริงราตรี ใน EP.Finale ของ Sleeper1 และได้ร่วมกันทำเพลงประกอบรายการเนวิเกเตอร์ด้วยกันต่ออีกหลายปี

ค่ายนี้ยังผลิตซีดี

แม้ว่าทุกวันนี้คนส่วนใหญ่จะฟังเพลงผ่านสตรีมมิงมากกว่าซีดี แต่ No More Belts ก็ยังคงผลิตซีดีออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ฟังด้วย โดยเฉพาะอัลบั้ม Belter ซึ่งเป็นการรวบรวมเพลงของศิลปินหลากหลายวง เพราะหนึ่งรู้สึกว่ารูปแบบซีดีนั้นเหมาะกับการจัดระเบียบผลงานให้เป็นกลุ่มก้อนความคิดที่ชัดเจน สามารถจับต้องได้ ที่สำคัญเขายอมรับว่าเสพติดความเป็น physical format ยังมีความสุขกับการได้เห็นผลงานความคิดกลายเป็นแผ่นออกมาวางขายในงานเทศกาลดนตรีทุกปี ชอบความรู้สึกของการได้เปิดแผ่น การนั่งตรวจดูเนื้อหารายละเอียดบนปกซีดี เรียกได้ว่าเป็นการทำงานที่ผูกพันมากกว่า 20 ปี

คอนเสิร์ตรวมรุ่นครั้งสุดท้าย

ในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 นี้ พวกเขามีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้าย No More Belts ‘The Last Reunion’ ซึ่งปอยและหนึ่งอยากให้ศิลปินและแฟนเพลงที่เติบโตมาพร้อมกับเสียงดนตรีค่ายไร้เข็มขัดแห่งนี้ได้กลับมาดื่มด่ำความทรงจำสุดพิเศษ โดยนอกจากจะมี 4 ศิลปินหลัก อย่าง Sleeper1, Portrait, Morningsurfers และ Soundlanding แล้วยังมีผองเพื่อนอีกมากมายที่เคยทำงานร่วมกัน พร้อมกับมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ  เช่น มีศิลปินรับเชิญที่เป็นแฟนเพลง Sleeper1 ตั้งแต่เด็ก มาร้องเพลงที่เขาชื่นชอบให้ทุกคนได้ฟังกัน การแสดงสดครั้งแรกของศิลปิน 60 C เจ้าของเพลง I Miss U2 โดย อีฟ-พุทธธิดา ศิระฉายา และ ป๊อก-ต่อยศ จงแจ่ม แห่งวง Zeal ซึ่งแทบไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเป็นใคร หรือปอยก็ตั้งใจเลือกบางเพลงของ Portrait ที่เคยเล่นครั้งเดียวเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วกลับมาเล่นอีกครั้ง พวกเขาเชื่อว่าหลายอย่างบนเวทีนี้จะไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน และอีกหลายอย่างจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งก็มีผู้มารับชมอย่างล้นหลาม นับเป็นการปิดตำนานที่สมบูรณ์ของค่ายเพลงไร้เข็มขัดนี้อย่างแท้จริง

<< แชร์บทความนี้

RELATED POSTS
LATEST

Keep In Touch

COPYRIGHT © 2021 WWW.THENORMALHERO.CO.  ALL RIGHTS RESERVED.